เป็นบุตรชายคนโต ของนายทหารแห่งกองทัพอากาศไทย ถูกปลูกฝังเรื่องความมีระเบียบวินัยและความรักประเทศชาติเป็นอันดับหนึ่งมาตั้งแต่เด็กๆสนใจเรื่องของเก่าของโบราณและชอบเก็บสะสมแสตมป์มาตลอด

ครอบครัวมุ่งหวังให้รับราชการเพื่อรับใช้ประเทศชาติจึงมุมานะพยายามสอบชิงทุนของจังหวัดชลบุรี เพื่อศึกษาวิชาด้านสาธารณสุขพอจบมาก็ได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรีตามที่พ่อแม่ตั้งใจหวัง

ทำงานไปสักระยะนึงก็รู้ว่าตัวเองชอบทางด้านวิศวะคอมพิวเตอร์ จึงอาศัยเวลาว่าง ไปศึกษาจนจบสาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ พอจบมาก็นำเอาความรู้ใหม่ที่ได้มาพัฒนาระบบงานของตัวเองจนก้าวหน้าเติบโตในสายงานของตน

พอสักระยะนึงเกิดอยากได้รายได้เพิ่มเพื่อออกรถคันแรกจึงไปรับจ๊อบที่โรงงานในช่วงวันหยุด ทำได้เพียงวันเดียวก็รู้ว่าที่เราร่ำเรียนมาแล้วนั้นยังไม่เพียงพอจึงหาเวลาว่างที่มีอยู่น้อยนิดไปร่ำเรียน ในสาขา อาชีวอนามัยและความปลอดภัยมาอีกใบนึง พอจบมาก็ได้เลื่อนระดับเป็นหัวหน้าหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องกับงานด้านนี้พอดี

เนื่องจากมีลูกน้องในสังกัดหลายคนทำให้ไม่มีเวลาไปรับจ๊อบโรงงาน เพราะต้องคอยจัดการปัญหาด้านข้อกฎหมายของที่ทำงานหลายๆอย่างและเห็นว่าชักช้าอาจไม่ทันการ จึงไปศึกษาต่อด้าน นิติศาสตร์อีกใบนึงในระหว่างศึกษาอยู่นั้น ได้รับความไว้วางใจจากเพื่อนๆและอาจารย์ที่ภาควิชาให้เป็นประธานนิสิตคณะนิติศาสตร์ รุ่นที่ ๔ พอจบออกมาก็ได้เลื่อนระดับเป็นหัวหน้าฝ่าย (นักบริหารงานสาธารณสุขระดับ ๗) ถือว่ามาไกลเกินไปแล้วสำหรับคนธรรมดาไม่มีเส้นสายอะไร

ทุกเทศกาลกินเจ ต้องไปช่วยทางบ้านขายกับข้าวที่โรงเจโดยจะได้รับเกียรติให้ไปล้างจานกับเสริฟ์อาหารให้กับลูกค้า เป็นประจำทุกปี

นอกจากงานประจำแล้วยังทำงานใต้ดิน โดยเป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมายและคอมพิวเตอร์เทคโนโลยี ให้กับ “กลุ่มอนุรักษ์อ่าวนาเกลือ” และ “เครือข่ายคัดค้านการก่อสร้างท่าเรือแหลมฉบังขั้นที่สาม” ด้วยมุ่งหวังที่จะตอบแทนบุญคุณของแผ่นดิน ด้วยการรักษาผลประโยชน์ของบ้านเมืองเอาไว้ให้มากที่สุด

ทุกครั้งที่มีเวลาว่างจะมีงานที่เร่งทำอยู่ในปัจจุบัน จำนวน ๒ ชิ้น คือ

๑.          รวบรวมเอกสารเพื่อจัดทำหนังสือ“ประชุมภาพและพระธรรมเทศนาของสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์(เจริญ สุขบท)” เพื่อให้เป็นเกียรติประวัติแก่ชาวชลบุรีบ้านเกิด

๒.          รวบรวมเอกสารเพื่อจัดทำหนังสือ“ชีวิตและผลงานของพระยาบริรักษ์เวชชการ” (บริรักษ์ ติตติรานนท์) ซึ่งท่านนี้ก็เป็นชาวชลบุรี ที่มีคุณประโยชน์แก่บ้านเมืองที่อาจจะถูกลืมเลือนไป

งานทั้งสองชิ้นนี้จำเป็นต้องใช้ปัจจัยเป็นจำนวนมาก จึงได้ขออนุญาตจากคุณพ่อแลกเปลี่ยนของสะสมที่เก็บไว้เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดทำหนังสือทั้งสองเล่มนี้ ทุกครั้งที่ลงขายของก็จะพยายามสอดแทรกแนวคิดด้านความรักชาติและการทำประโยชน์เพื่อส่วนรวมให้กับบ้านเมืองมาโดยตลอด และเมื่อหนังสือเสร็จสมบูรณ์แล้วกระผมจะใส่ชื่อของลูกค้าทุกท่านเพื่อแสดงความขอบคุณแด่เพื่อนสมาชิกทุกๆท่าน

ถ้าเพื่อนๆเล่น facebook ก็แวะไปทักทายกันได้ที่  "กลุ่มอนุรักษ์อ่าวนาเกลือ บางละมุง"  หรือที่ "เครือข่ายคัดค้านท่าเรือ"